ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

การเล่นจาโต (หมากรุก)

 การเล่นจาโต (หมากรุก)

ภาค     ภาคใต้
จังหวัด  ยะลา

จาโตเป็นการเล่นอย่างหนึ่งของชาวไทยมุสลิม ซึ่งพอเทียบได้กับการเล่นหมากรุกไทย หมากรุกฝรั่ง และหมากรุกจีน ไม่ว่าจะเป็นกระดาน จำนวนตาราง ตัวหมาก การวางหมาก การเดิน การกิน และการไล่
กระดาน เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีจำนวน ๖๔ ตาราง ตามกว้าง ๘ ตาราง ตามยาว ๘ ตาราง
ตัวหมาก มีฝ่ายละ ๑๖ คือ
เต มี ๒ ตัวเทียบเท่ากับ เรือ ของหมากรุกไทย
กูดอ มี ๒ ตัวเทียบเท่ากับ ม้า ของหมากรุกไทย
กาเยาะ มี ๒ ตัวเทียบเท่ากับ โคน ของหมากรุกไทย
รายอ มี ๑ ตัวเทียบเท่ากับ ขุน ของหมากรุกไทย
กรี มี ๑ ตัวเทียบเท่ากับ เม็ด ของเม็ดหมากรุกไทย
บีเดาะ มี ๘ ตัวเทียบเท่ากับ เบี้ย ของหมากรุกไทย

การวางหมาก วาง ๒ แถวจากแถวล่างสุด ซ้ายไปขวาดังนั้น เต กูดอ กาเยาะ รายอ กรี กาเยาะ กูดอ เต แถวถัดไปชิดกับแถวแรก (ตั้งเหมือนหมากรุกฝรั่ง ) เป็นที่ตั้งของบีเดาะ ๘ ตัว
การเดิน ต่างตัวต่างเดินไม่เหมือนกันคือ "เต" เดินในทิศทางตรงไปข้างหน้า ถอยหลัง ไปข้างซ้าย ไปข้างขวา จะยาวทีละตาหรือกี่ตาก็ได้ เหมือนหมากรุกไทยทุกอย่าง
"กูดอ" เดินทแยงไป ๑ ตาแล้วตรงขึ้นบน หรือตรงไปทางขวา สำหรับด้านขวาบนเดินทแยง ๑ ตาแล้วตรงขึ้นบน หรือตรงไปทางซ้ายสำหรับด้านซ้ายบน เดินทแยงลงขวาแล้วตรงลงมาล่าง หรือตรงไปทางขวา สำหรับด้านขวาล่าง และเดินทแยงลงล่างแล้วตรงไปทางซ้าย หรือตรงลงล่างสำหรับด้านซ้ายล่าง รวม ๘ ทิศทาง
"กาเยาะ" เดินตามแนวทแยง ๔ ทิศทาง เหมือนตัวบิซอพ(bishop) ของหมากรุกฝรั่ง ต่างไปจากโคนของไทยมาก มีอำนาจมากกว่าเพราะได้มากกว่า ๑ ตา จะยาวไปกี่ตาก็ได้
"รายอ" เดินได้รอบตัว ๔ ทิศทาง แต่ครั้งละ ๑ ตา เดินยาวไม่ได้ มีข้อยกเว้นพิเศษในฐานะขุนทัพ คือการเดินครั้งแรกไม่ว่าจะถูกหรือไม่ก็ตามเดินได้เหมือนม้า ๑ ครั้ง หรืออาจจะเดินข้ามตัวที่อยู่ซ้าย หรือขวาได้ ๑ ครั้ง
"กรี" เดินได้ ๘ ทิศทาง คือ เดินเหมือนเตได้ และเหมือนกาเยาะได้ เป็นตัวที่มีอำนาจมากที่สุด เทียบเท่ากับตัวควีน (Queen) ของหมากรุกฝรั่งทุกประการ หากการเดินของฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำถึงกับเสีย กรี โอกาสแพ้มีเกือบ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ มักจะยอมแก้ไม่เดินต่อไป
"บีเดาะ"เดินได้ทีละตาในแนวตรงไปข้างหน้า กินหมากตัวอื่นกินในแนวทแยงเหมือนเบี้ยไทยแต่ในการเดินครั้งแรกของ บีเดาะแต่ละตัว ยอมให้ขึ้นได้ ๒ ตา หรือจะเดินตาเดียวก็ได้ มีสิ่งพิเศษเกี่ยวกับบีเดาะคือ เมื่อขึ้นไปถึงเส้นสูงสุดก็หงาย และสามารถเดินได้รอบตัวทีละตาเหมือนรายอ ใช้เป็นตัวบังการรบกวน แต่ไม่มีอำนาจกินตัวอื่นใดหากสามารถเดินถอยหลังทแยงทีละตาลงมาถึงแนวล่างได้ จะเปลี่ยนศักดิ์เป็นตัวอื่นได้ตามสัญญาโดยดูว่าตำแหน่งที่บีเดาะหงายตรงกับ ตัวอะไร ที่ตั้งครั้งแรกเช่น ตรงกับเตก็ให้เปลี่ยนเป็นเตได้
การกิน หมากตัวใดมาขวางทางเดินของตัวใด ตัวนั้นมีสิทธิ์ยกไปกินแทนที่ตัวนั้นได้ นอกจากบีเดาะซึ่งต้องกินในตาทแยง แต่เดินขึ้นตรง

การไล่ เมื่อฝ่ายใดเสียเปรียบ เช่น มีจำนวนไพร่พลน้อยกว่า หรือมีแต่ตัวที่มีอำนาจต่ำกว่า ก็จะเป็นฝ่ายถูกไล่ เมื่อใดรายอถูกรุกไล่จนไม่สามารถหนีได้ ก็แปลว่า "จน" ต้องแพ้ไป
ข้อปลีกย่อย เตกับกูดอ ทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ครั้งแรกสามารถจะเดินโดยหยิบทีเดียวทั้ง ๒ ตัวเลื่อนไปด้วยกัน ทางขวาหรือซ้าย หรือ ๒ ตา แล้วยกม้าไปในตาที่เป็นไปได้อีก ๑ ตา
คุณค่า / แนวคิด / สาระ
การเล่นจาโตเป็นการฝึกปฏิภาณไหวพริบของผู้เล่น ฝึกการใช้ความคิดและการวางแผน นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความสนุกสนานเพลิดเพลินให้กับผู้เล่นด้วย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การละเล่นพื้นบ้าน 4 ภาค: ภาคกลาง หมากเก็บ

 การละเล่นพื้นบ้าน 4 ภาค: ภาคกลาง หมากเก็บ    จำนวนผู้เล่น   2 - 4 คน วิธีเล่น ใช้ก้อนกรวดที่มีลักษณะกลมๆ 5 ก้อน เสี่ยงทายว่าใครจะเล่นก่อน โดยวิธีขึ้นร้าน คือ ถือหมากทั้งห้าเม็ดไว้แล้วโยนพลิกหงายหลังมือรับ แล้วพลิกมือกลับรับอีกที ใครเหลือหินอยู่ในหินอยู่ในมือมากที่สุดคนนั้นเล่นก่อน มีทั้งหมด 5 หมาก หมากที่ 1 ทอดหมากให้ห่างๆ กัน เลือกลูกนำไว้ 1 เม็ด ควรใช้เม็ดกรวดที่ห่างที่สุด โยนเม็ดนำขึ้นแล้วเก็บทีละเม็ดพร้อมกับรับลูกนำที่หล่นลงมาให้ได้ ถ้ารับไม่ได้ถือว่า "ตาย" ขณะที่หยิบเม็ดที่ทอดนั้น ถ้ามือไปถูกเม็ดอื่นถือว่า ตาย หมากที่ 2 เก็บทีละ 2 เม็ด หมากที่ 3 เก็บทีละ 3 เม็ด หมากที่ 4 ใช้โปะ ไม่ทอด คือ ถือหมากทั้งหมดไว้ในมือ โยนลูกนำขึ้นแล้วโปะเม็ดที่เหลือลงพื้นแล้วรวมทั้งหมดที่ถือไว้ "ขี้นร้าน" ได้กี่เม็ดเป็นแต้มของคนนั้น ถ้าขึ้นร้านเม็ดหล่นหมด ใช้หลังมือรับไม่ได้ ถือว่า "ตาย" ไม่ได้แต้ม คนอื่นเล่นต่อไป ถ้าใครตายหมากไหนก็เริ่มต้นหมากนั้น ส่วนมากกำหนดแต้ม 50-100 แต้ม เมื่อแต้มใกล้จะครบ เวลาขึ้นร้านต้องคอยระวังไม่ให้เกินแต้มที่กำหนด ถ้าเกินไปเท่าไร หมายถึงว่าต้องเร...

การเล่นเพลงยิ้มใย

 การเล่นเพลงยิ้มใย ภาค     ภาคเหนือ จังหวัด  สุโขทัย เพลงยิ้มใย ปัจจุบันหาผู้ร้องได้น้อยลงทุกที ลักษณะการร้อง คือ จะมีลูกคู่ร้องสอดรับคำว่า เชียะ เชียะ เชียะ ที่ท่อนกลางของเนื้อร้องท่อนที่หนึ่งกับร้องรับทวนซ้ำสองบทหลังสอง ครั้งแล้วจึงลงคำว่า เอ๋ยแล้วเอย นับเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเพลงยิ้มใยสุโขทัย ไม่พบที่ใด เพลงหน้าใยของทางภาคกลางก็มีลักษณะต่างกัน แต่เรียกชื่อคล้ายกันมาก ลักษณะการเล่น เป็นการเล่นของกลุ่มหนุ่มสาว การแต่งกาย แต่งกายอย่างชาวชนบทไทยในสมัยนั้น สถานที่ (ลานวัด และหมู่บ้านที่เป็นทางเดินแห่ขบวน) วิธีเล่น ในเทศกาลตรุษ สงกรานต์ก่อนจะสรงน้ำพระจะนำพระพุทธรูปใส่เกวียนแล้วแห่รอบหมู่บ้าน จากนั้นจึงนำไปสรง เพลงยิ้มใยนี้จะร้องเล่นกันไปในระหว่างแห่พระนั่นเอง เนื้อความทำนองร้องเล่นรื่นเริงสนุกสนาน ส่วนในเทศกาลออกพรรษา ทอดผ้าป่า ทอดกฐินนั้น ก็จะร้องเล่นกันไปในขณะเดินขบวน เพลง ลักยิ้มก็ฉันเอย นะพ่อคุณเอ๋ยยิ้มใย (ลูกคู่) เชียะ เชียะ เชียะ ตัดผมเรือนนอก ทัดแต่ดอกไม้ไหว ชมเล่นไกลๆ เอ๋ยเถิดเอย (ลูกคู่) ชมเล่นไกลๆ เอ๋ยเถิดเอย ตัดผมเรือนนอก ทัดแต่ดอกไม้ไหว ชมเล่นไกลๆ เอ๋ยเถ...

วิ่งวัวหรือวิ่งเปรี้ยว

 วิ่งวัวหรือวิ่งเปรี้ยว (การเล่นในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น) การเล่นวิ่งวัวหรือที่นิยมเรียกกันในปัจจุบันว่า วิ่งเปี้ยว อาจเป็นการวิ่งทางตรงสวนกันหรือวิ่งเป็นวงกลมเพื่อให้ฝ่ายหนึ่งไล่ให้ทันอีกฝ่ายหนึ่ง วัตถุประสงค์ เพื่อฝึกความเร็วและความแข็งแรง เพื่อฝึกความรับผิดชอบร่วมกัน เพื่อการฝึกบริหารกาย อุปกรณ์ เสา 2 หลัก ผ้าเช็ดหน้า 2 ผืน ผู้เล่น ไม่จำกัดจำนวน แต่ต้องแบ่งเป็น 2 ฝ่ายเท่า ๆ กัน รูปแบบ ปักหลัก 2 ข้าง หรือใช้คนนั่งเป็นหลัก ข้างละหลัก ระยะห่างประมาณ 50 หลา ผู้เล่นยืนเข้าแถวตอนด้านหลังหลักแต่ละข้าง  วิธีการเล่น เริ่มต้นพร้อมกันทั้งสองฝ่าย โดยผู้เล่นของแต่ละฝ่ายวิ่งอ้อมหลักไล่ให้ทันกัน มือถือผ้าคนละผืนเมื่อถึงฝ่ายของตนให้ส่งผ้าให้คนต่อไป ถ้าผ้าของใครตกต้องหยุดเก็บผ้าก่อน หรือคนต่อไปเก็บผ้าและถือไว้ วิ่งต่อไป ฝ่ายไล่ทันต้องใช้ผ้าที่ถืออยู่ตีอีกฝ่ายหนึ่งจึงถือว่า ฝ่ายนั้นชนะ ข้อเสนอแนะ ผู้เล่นคนใดถูกตีต้องรำตามเพลงที่ผู้ตีร้อง